เราอาจจะเคยได้ยินคนอื่นบอกว่าการยื่นรีไฟแนนซ์รถหรือขอสินเชื่อรถแลกเงิน ลองยืนสองครั้งหรือสมัครไปหลายหลายที่ถึงจะมีโอกาสผ่าน
และหลายคนก็ทำตามโดยที่ยังไม่รู้เลยว่าเป็นข้อมูลที่จริงเท็จขนาดไหน วันนี้ผมจะมาขยายความข้อดีและข้อเสียของการยื่นขอสินเชื่อ
รีไฟแนนซ์รถหลายหลายที่พร้อมกันหรือการยื่นหลายครั้งในเวลาติดต่อกัน ว่าในมุมมองของผู้ตรวจสอบเครดิตและธนาคารผู้อนุมัติสินเชื่อมีมุมมองอย่างไรต่อผู้กู้ที่กระทำลักษณะเช่นนี้
การกู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถและรถแลกเงินต้องผ่านการพิจารณาอนุมัติอย่างถี่ถ้วน
หมายความว่าเมื่อเรายื่นกู้ไปแต่ละครั้งใบสมัครรีไฟแนนซ์รถและรถแลกเงินของเราจะถูกส่งไปที่ฝ่ายพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ แล้วเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นของเราเช่นหน้าที่การงาน
รายได้ต่อเดือน หลังจากนั้นจึงทำการประเมินเครดิตโดยตรวจสอบจากประวัติทางการเงินของธนาคารเองและขอข้อมูลจากส่วนกลางที่เรียกว่าเครดิตบูโร
เพื่อตรวจสอบว่าลูกหนี้รายนี้มีพฤติกรรมการผ่อนชำระดีหรือไม่ เคยมีการค้างชำระหรือเบี้ยวหนี้กับเจ้าหนี้คนไหนหรือเปล่า นอกจากนี้สิ่งที่เคดิตบูโรได้บันทึกไว้อีกอย่างหนึ่งก็คือ
ประวัติการขอสินเชื่อของลูกหนี้คนนี้ ซึ่งหมายถึงถ้าเราขอสินเชื่อหลายๆครั้งทุกธนาคารก็จะเห็นข้อมูลตรงนี้เหมือนกัน
การขอ
รีไฟแนนซ์รถกับ
รถแลกเงินหลายครั้งไม่ดีอย่างไร
เนื่องจากทุกธนาคารเห็นประวัติการขอสินเชื่อเราทุกครั้งดังนั้นถ้าเราขอ
รีไฟแนนซ์รถหลายครั้งหรือยื่นหลายที่พร้อมกัน นั่นหมายความว่าเราไม่มีวินัยในการให้เกียรติธนาคารแต่ละแห่งได้มีโอกาสทำงานของตนเอง
เพราะแต่ละธนาคารต่างมีต้นทุนทั้งงบประมาณและเวลาที่ต้องเสียไปในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อแต่ละคน ถ้าหากธนาคารอนุมัติแล้วเราปฏิเสธสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถหรือ
รถแลกเงินเนื่องจากไปขอกับที่อื่นมาแล้ว ย่อมแสดงให้เห็นถึงความไม่รับผิดชอบและเห็นแก่ตัวของผู้กู้และอาจทำให้ธนาคารแบล็คลิสต์ลูกหนี้รายนี้ไปเลยก็ได้
ถ้าจะยื่นกู้รีไฟแนนซ์รถครั้งเดียวให้ผ่านควรสมัครที่ไหนดี
เนื่องจากธนาคารและดีซิ่งในประเทศไทยมีอยู่หลายเจ้า ถ้าเราอยากมั่นใจว่าเราจะสมัครกับธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยถูกที่สุดสำหรับรีไฟแนนซ์รถใน
รถแลกเงิน เราควรขอสินเชื่อจากที่ๆดัที่สุด โดยเข้าไปดูจาก
https://car.4cash.co ที่มีข้อมูลดอกเบี้ยและเงินไขของหลากหลายธนาคารและลิสซิ่งชั้นนำในประเทศไทย